วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ว่าด้วยเรื่องของเถ้าแก่กับลูกจ้าง


 
วันเวลาในตลาดทุนทำให้ผมมีโอกาสได้สัมผัส และซึมซับแนวคิดรวมถึงมุมมองต่อสิ่งต่างๆของผู้คนมากมาย จากทั้งภาคตลาดทุน ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และภาครัฐ ซึ่งจากการสังเกตของผมนักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องมี “แนวคิดแบบเถ้าแก่” (Entrepreneurship) เป็นพื้นฐาน แล้วแนวคิดแบบเถ้าแก่นี้เป็นอย่างไรแตกต่างจากแนวคิดแบบลูกจ้างอย่างไรในมุม มองของผมลองมาดูกันครับ
  • เถ้าแก่ : กระตือรือล้น และทำทุกอย่างสุดความสามารถเสมอ เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาทำมากเขาจะได้มาก
  • ลูกจ้าง : ทำงานตามหน้าที่ ทำงานตามสั่ง และเฉื่อยชา เพราะเขาทำมากหรือทำน้อยเขาก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม
  • เถ้าแก่ : กล้าที่จะคิดต่าง เพราะการคิดนอกกรอบสามารถสร้างธุรกิจใหม่ และเพิ่มรายได้ให้เถ้าแก่ได้ไม่จำกัด
  • ลูกจ้าง : คิดแต่จะอยู่ในกรอบ กลัวความคิดตนจะไม่เหมือนคนอื่น กลัวผิดระเบียบปฎิบัติ กลัวขัดใจนาย การคิดต่างไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของลูกจ้างดีขึ้นมีแต่จะทรงหรือแย่ลง
  • เถ้าแก่ : กล้าที่จะเสี่ยงในสิ่งที่เขาคิดดีแล้ว กล้าจะเผชิญกับความไม่แน่นอน กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และยอมรับได้กับผลของการตัดสินใจและการกระทำของเขาไม่ว่าจะดีจะร้าย
  • ลูกจ้าง : หลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพราะกลัวล้มเหลว กลัวถูกนายตำหนิ ชอบสิ่งที่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า และเมื่อทำสิ่งใดผิดพลาดมันโยนความผิดให้ผู้อื่น
  • เถ้าแก่ : เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ชีวิตคนเราขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ถ้าพบอุปสรรคระหว่างทางเขาพร้อมที่จะหาทางออกทุกวิถีทางเพื่อให้เป้าหมายของ เขาลุล่วงไปได้ เขาเลือกจะหาทางไปไม่เปลี่ยนเป้าหมาย
  • ลูกจ้าง : เชื่อว่าทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว ไม่ว่าทำอย่างไรชีวิตเราก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าพบอุปสรรคระหว่างทางเขามักจะเลือกล้มเลิกเป้าหมายแทนที่จะหาทางทำให้เป้า หมายเป็นไปได้ เขาเลือกจะเปลียนเป้าหมายไม่พยายามหาหนทางไป
  • เถ้าแก่ : ไม่ท้อแท้ ไม่ว่าเขาจะล้มเหลวกี่ครั้งก็พร้อมจะลุกขึ้นสู้ต่อไป โดยใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน
  • ลูกจ้าง : ถอดใจเมื่อล้มเหลว และหาทางหลีกหนีจากสิ่งที่ตนเคยล้มเหลว และก็มักจะไปพบกับความล้มเหลวใหม่ๆที่เขาไม่เคยเจอ
  • เถ้าแก่ : เห็นคุณค่าของเงิน มักเก็บออมเพื่อนำเงินออมมาลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม และเก็บไว้สำรองเผื่อธุรกิจของตนมีปัญหา
  • ลูกจ้าง : คิดว่าเงินเป็นสิ่งที่ได้มาแน่นอนทุกเดือน อย่างไรนายจ้างก็ต้องจ่ายให้ เมื่อมีโอกาสก็มักใช้เงินให้หมดไป และรอคอยเงินเดือนๆต่อไปมาใช้ใหม่
  • เถ้าแก่ : กู้เงินมาเพื่อลงทุน ขยายกิจการ ต่อยอดธุรกิจ และเมื่อมีโอกาสก็จะคืนเงินกู้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
  • ลูกจ้าง : กู้เงินมาเพื่ออุปโภคบริโภค และมักกู้เงินไปเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไปเรื่อยๆ เท่าที่จะยังจ่ายค่างวดไหว
แล้วทำไมนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจึงต้องมีแนวคิดอย่างเถ้าแก่ นั่นก็ เพราะแนวคิดแบบเถ้าแก่จะช่วยเกื้อหนุนให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้ถูกต้อง ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดแบบลูกจ้างโดยสิ้นเชิง
  • ถ้าคุณขาดความกระตือรือล้น คุณก็จะขาดความมุ่งมั่นที่จะค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ดีที่สุด หรือหลีกเลี่ยงความรู้ใหม่ๆและทำให้คุณยึดติดกับแนวคิดเดิมๆ
  • ถ้าคุณขาดความคิดนอกกรอบ คุณก็จะถูกตลาดชัดนำได้ง่ายและมีแนวโน้มจะแห่ตามนักลงทุนรายอื่นๆ ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดไม่ได้เป็นเศรษฐี คุณที่แห่ตามนักลงทุนส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มจะไม่ได้เป็นเศรษฐีไปด้วย
  • ถ้าคุณกลัวที่จะล้มเหลว การตัดสินใจของคุณก็จะขาดความเด็ดขาด และมีแนวโน้มจะปล่อยให้ความผิดพลาดขยายผลไปเรื่อยๆเพราะคุณปฎิเสธที่จะยอม รับและแก้ไขมัน
  • ถ้าคุณเชื่อว่าทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว คุณก็จะดำเนินชีวิตไปตามตามแบบอย่างที่คุณเคยเห็น เคยสัมผัส ซึ่งอาจเป็นพ่อแม่ของคุณ ญาติผู้ใหญ่ของคุณ หรืออาจารย์ของคุณ และคิดว่าชีวิตของคุณเป็นได้ไม่มากไปกว่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วมหาเศรษฐีระดับโลกในปัจจุบัน หลายคนก็สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตัวเองไม่ได้พึ่งแค่สิ่งที่มีมาแต่กำเนิด
  • ถ้าคุณท้อแท้ง่าย เมื่อคุณล้มเหลว คุณก็จะไม่พยายามหาสาเหตุเพื่อแก้ไขและลุกขึ้นสู้กับปัญหา แต่จะเลือกหนีจากความล้มเหลวนั้นๆ สุดท้ายคุณก็จะล้มเหลวไปเรื่อยๆไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปทำอะไรก็ตาม
  • ถ้าคุณไม่รู้จักเก็บออม คุณจะก็ไม่มีเงินลงทุนซักที มีเหตุผลข้ออ้างนับล้านที่คุณอาจใช้อธิบายว่าทำไมคุณจึงไม่มีเงินเริ่มลงทุน แต่เหตุผลจริงๆมีเพียงข้อเดียวคือ คุณไม่เริ่มออมเงิน จำเอาไว้ว่าการลงทุนเริ่มต้นจากการออมเสมอ
  • ถ้าคุณกู้เงินมาเพื่อการอุปโภคบริโภค สุดท้ายเงินนั้นก็จะหมดไป แต่ถ้าคุณกู้เงินมาเพื่อลงทุน คุณยังมีสองทางเลือกคือ 1. เงินก็หมดไปอยู่ดี (เพราะขาดทุน) 2. เงินอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินกู้และคุณจะสามารถนำไปลงทุนต่อได้อีก การลงทุนไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่อย่างน้อยคุณยังมีโอกาสที่จะได้กำไรและสร้างรากฐานความมั่งคั่งได้ มหาเศรษฐีทุกคนล้วนแต่เคยสัมผัสการใช้เงินกู้มาแล้วทั้งนั้น แต่สาเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จได้เพราะพวกเขาเลือกที่จะกู้มาลงทุนไม่ ใช่กู้เพื่อการบริโภค
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนที่เป็นลูกจ้าง หรือข้าราชการ จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ เพราะสิ่งสำคัญสำหรับการลงทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังทำอาชีพอะไร แต่อยู่ที่ว่าคุณมีแนวคิดอย่างไร ถ้าคุณสามารถปรับแนวคิดของคุณให้คิดอย่างเถ้าแก่ได้ ช้าหรือเร็ววันหนึ่งคุณก็จะอยากเป็นเถ้าแก่ และเมื่อคุณเริ่มคิดจะอยากเป็นเถ้าแก่ คุณก็จะเริ่มมีโอกาสเป็นเถ้าแก่ได้ สำหรับผมแล้วการปรับแนวคิดให้เหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการลงทุนครับ

งานเขียนฉบับนี้เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนซึ่งอาศัยข้อ สังเกตและประสบการณ์ส่วนตัวในตลาดทุนเท่านั้น ไม่มีงานวิจัยใดๆสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวของผู้เขียน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อนึ่ง ผู้เขียนแสดงทัศนะในบทความนี้ในเชิงส่วนตัวไม่ได้แสดงความเห็นแทนบริษัท คณะบุคคล มูลนิธิหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น

10 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 สิงหาคม 2555 เวลา 10:06

    i like it
    thx bro

    ตอบลบ
  2. ยอดเยี่ยมเลย โดยเฉพาะประโยคนี้ดีมาก
    "ถ้าคุณกู้เงินมาเพื่อการอุปโภคบริโภค สุดท้ายเงินนั้นก็จะหมดไป แต่ถ้าคุณกู้เงินมาเพื่อลงทุน คุณยังมีสองทางเลือกคือ 1. เงินก็หมดไปอยู่ดี (เพราะขาดทุน) 2. เงินอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินกู้และคุณจะสามารถนำไปลงทุนต่อได้อีก การลงทุนไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่อย่างน้อยคุณยังมีโอกาสที่จะได้กำไรและสร้างรากฐานความมั่งคั่งได้ มหาเศรษฐีทุกคนล้วนแต่เคยสัมผัสการใช้เงินกู้มาแล้วทั้งนั้น แต่สาเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จได้เพราะพวกเขาเลือกที่จะกู้มาลงทุนไม่ ใช่กู้เพื่อการบริโภค"

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณทุกความเห็นครับ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณข้อมูลดีๆแบบนี้ค่า 😊

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณข้อมูลดีๆแบบนี้ค่า 😊

    ตอบลบ
  6. แบบนี้ ควรลงทุนในธนาคาร หรือกิจการที่เน้นปล่อยกู้เพื่อการลงทุน ไม่เน้นการปล่อยกู้เพื่อบริโภคด้วยไหมครับ

    ตอบลบ
  7. แบบนี้ ควรลงทุนในธนาคาร หรือกิจการที่เน้นปล่อยกู้เพื่อการลงทุน ไม่เน้นการปล่อยกู้เพื่อบริโภคด้วยไหมครับ

    ตอบลบ
  8. จะว่าไป พวกโทรมาขายสินเชื่อ มีแต่สินเชื่อที่อนุมัติจากรายได้เงินเดือน ทำให้เป็นได้แต่มนุษย์เงินเดือน ไม่ยักมีมาเสนอสินเชื่อเพื่อทำอะไรให้หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน

    อันที่จริง ให้กู้โดยดูแต่เงินเดือน เจ้าหนี้เองก็จะได้รับผลตอบแทนซึ่งจำกัดอยู่ที่เงินเดือนของลูกหนี้ (เงินเดือนไม่ขึ้นก็ไม่ได้ผลตอบแทนตามไปด้วย) แต่ถ้าปล่อยกู้เพื่อขยายธุรกิจ ผลตอบแทนก็โตตามธุรกิจด้วย

    ตอบลบ
  9. ใช้สำหรับเงินกู้ของคุณวันนี้ออนไลน์โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของทุกชนิดและรับ
    เงินกู้ของคุณในอัตรา 3%
    ติดต่อเราวันนี้ที่
    raphealjefferyfinance@gmail.com
    กรอกแบบฟอร์มการสมัครขอสินเชื่อ

    ชื่อ:
    ประเทศ:
    สถานะ:
    เบอร์โทรศัพท์:
    อายุ:
    อาชีพ:
    จำนวนเงินกู้ที่จำเป็น:
    ระยะเวลา:
    เว็บไซต์: raphealjefferyfinance@gmail.com

    ผบ. นายเจฟฟรีย์

    ตอบลบ