ตัวตนของตลาดหุ้น
มีข้อถกเถียงกันมากมายว่าการลงทุนในตลาดหุ้นอะไรเป็นปัจจัยชี้ขาดระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันมุมมองเศรษฐกิจ ว่าใครจะถูกต้องกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันการวิเคราะห์มูลค่า ว่าใครจะแม่นกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันการอ่านกราฟ ว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันเทรดอัลกอริทึ่ม ว่าใครจะไวกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชัน Mind set ว่าใครจะนิ่งกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชัน Money management ว่าใครจะแน่นกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันเงินทุน ว่าใครจะหนากว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันการใช้ข้อมูลภายใน ว่าใครจะลึกกว่ากัน
บ้างก็ว่าตลาดหุ้นเป็นการประชันดวง ว่าใครจะเฮงกว่ากัน
สำหรับผมแล้วตลาดหุ้นเป็นการประชันวิสัยทัศน์ ว่าใครจะกว้างไกลกว่ากัน
ผมเชื่อว่าคนที่จะประสบความสำเร็จระยะยาวในตลาดหุ้นจะเป็นคนที่มองเห็นแนวโน้มธุรกิจในอนาคตได้ชัดเจนว่าธุรกิจใดจะรุ่งไม่รุ่ง มองเห็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคต มองออกว่าบริษัทใดที่จะอยู่รอดและเป็นผู้ชนะในระยะยาว
พวกเขาเหล่านี้จะมองข้ามผลกำไรขาดทุนระยะสั้นระดับไตรมาสออกไป มองข้ามกระแสในตลาดหุ้นระยะสั้นออกไป มองข้ามโอกาสซื้อขายทำกำไรระยะสั้นหรือกระทั่งระยะยาวออกไป หรือกระทั่งมองข้าม Valuation ในระยะสั้นออกไป ไม่ว่าจะเป็นกราฟ อัลกอริทึ่ม ข่าววงในล้วนแล้วแต่ไม่ได้เป็นปัจจัยกำหนดความสำเร็จทียั่งยืนในตลาดหุ้นตามความเห็นของผม
แน่นอนว่ามีนักลงทุนมากมายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วย การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เทคนิค อัลกอริทึ่ม money management กำลังภายใน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าจะมีสิ่งที่เศรษฐีหุ้นหรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมีเหมือนกันซักอย่างหนึ่งก็คงเป็นวิสัยทัศน์นี่แหละ พวกเขามีจินตนาการมองเห็นอนาคตที่คนทั่วๆไปไม่เห็น พวกเขาเห็นสิ่งที่จะมาในอนาคตก่อนคนทั่วๆไปจะเห็น พวกเขาจึงสามารถลงทุนหรือลงมือทำไปก่อนคนอื่น กว่าคนทั่วๆไปจะมองเห็นโอกาสพวกเขาไปไกลมากแล้วไล่อย่างไรก็ไม่ทัน
สรุปแล้วผมคิดว่าสายมโนเนี่ยแหละเจ๋งสุด 555+
นักลงทุนที่ดีจึงควรเปิดมุมมองตัวเองให้กว้าง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเกิดขึ้น แล้วมองหาโอกาสลงทุนหรือทำธุรกิจด้วยตัวเอง การรอฟังแต่คำแนะนำของกูรูหรือการรออ่านบทวิเคราะห์นั้นไม่สามารถทำให้เราเป็นผู้ชนะในตลาดหุ้นหรือในธุรกิจได้ในระยะยาว เพราะว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะมาถึงเราก็แปลว่ามีคนคิดได้และลงทุนก่อนเราไปเยอะแล้ว และถ้าจะมีไอเดียธุรกิจดีจริงๆมาบอกเรา เขาก็คงเอาไปทำเองนานแล้ว
แล้วสำหรับคุณล่ะ ตลาดหุ้นคืออะไร?
Written by
Indy Investor Forum
2 ธันวาคม 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น