วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

8 เทรนของธุรกิจ E-commerce ในปี 2016

ปี 2015 ที่กำลังจะผ่านไปจัดได้ว่าเป็นปีทองของธุรกิจ E-commerce เมื่อพิจารณาถึงยอดขายที่โตถึง 15% ในสหรัฐฯ (42% ในจีน) ยอดขาย Cyber Monday ของสหรัฐ (และ Single day ของจีน) ที่สูงเป็นสถิติใหม่ ในขณะที่สัดส่วนยอดขาย E-commerce ต่อยอดขายปลีกรวมของสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 7.4% แปลว่าตลาด E-commerce ยังมีศักยภาพโตต่อไปได้อีกไกล 8 เทรนต่อไปนี้จะเป็นตัวผลักดันยอดขาย E-commerce ให้โตต่อไปได้ในปี 2016

1. Digital assistant จะเริ่มเข้ามามีบทบาท
ข้อได้เปรียบข้อหนึ่งของการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าแบบ Brick and Mortar ที่มีเหนือ E-commerce คือ การที่มีพนักงานขายมาคอยแนะนำสินค้าที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย แต่เมื่อเทคโนโลยี Voice recognition และ AI (Artificial Intelligence) พัฒนาไปในระดับที่สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้ เช่น Siri ของ Apple หรือ M ของ Facebook การค้าขายด้วย AI ก็จะเป็นไปได้มากขึ้น ปัจจุบันบริษัทอย่าง Amazon ก็มีฟังก์ชั่น Digital assistants ที่สามารถแนะนำสินค้าตลอดจนสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน AI ได้โดยอัตโนมัติ ต่อไปการซื้อของออนไลน์ก็อาจไม่จำเป็นต้องคลิ๊กให้เมื่อยเพราะสามารถซื้อสินค้ากับ AI ได้เลย ชีวิตเริ่มจะเหมือนนิยาย Sci-fi ขึ้นทุกวัน

2. ChatCommerce จะกลายเป็นเรื่องปกติ
เทรนของ Chat แล้ว Commerce ซึ่งเป็นที่นิยมมากในเอเชียจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในทั่วทุกแห่งในโลก Wechat ของ Tencent เป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของ ChatCommerce ผู้ใช้ Wechat ไม่ได้ใช้ App เพื่อพูดคุยกับเพื่อนฝูงอย่างเดียว แต่ใช้ Wechat เพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามกับผู้ขายโดยตรงด้วย ซึ่งเรื่องนี้เราเห็นกับบ่อยๆที่ผู้ซื้อสินค้าดูของจาก Instagram แล้วไปติดต่อผู้ขายผ่าน Facebook message หรือ Line แล้วการค้าขายก็เกิดขึ้นที่นั่น

3. Content กับ Commerce จะผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก
ปัจจุบันผู้ประกอบการ E-commerce ไม่ได้ขายสินค้าอย่างเดียวนะครับ พวกเขาเพิ่ม Content ให้กับผู้ซื้อดูไปพลางๆด้วยอย่างเช่น Amazon มีสมาชิกประเภท Prime ที่ไม่ใช่ว่าจะได้ฟรีค่าจัดส่งอย่างเดียว แต่สามารถเข้าไปชมภาพยนตร์ฮอลลิวู๊ดหรือ รายการทีวียอดนิยมได้ฟรีๆอีกด้วย ในขณะที่ผู้ผลิตรายการหรือภาพยนตร์ก็เปิดเวปไซด์ขายของที่ระลึกหรือของเล่นที่เกี่ยวข้องกับรายการของตนควบคู่กันไปด้วย อาจเพราะทั้ง Content และ E-Commerce เป็นสิ่งที่ต้องการให้ผู้บริโภคจดจ่ออยู่กับเวปไซด์ของตัวเองนานๆ พวกเขาก็เลยต้องหาอะไรมาทำให้ตัวเองน่าสนใจและสร้างรายได้

4. Virtual Reality กำลังจะเข้ามาทำตลาด
Virtual Reality เริ่มจะได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างเช่น Oculus Rift headset ของ Facebook ซึ่ง Virtual Reality นี้จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถมีข้อมูลในการตัดสินใจได้ดีขึ้นก่อนจะซื้อสินค้า เช่น อาจจะลองเอารูปสินค้ามามโนดูว่าถ้าผู้ซื้อว่าใส่แล้วจะดูเหมาะไหม (เหมือนเราเอาเสื้อที่ชอบมาทาบตัวดูโดยไม่ต้องลองใส่จริง) หรือในอนาคตอาจพัฒนาจนถึงขั้นสามารถจะลองใส่เสื้อผ้าผ่าน Virtual Reality ก่อนตัดสินใจซื้อออนไลน์ได้ อย่างไรก็ดี Virtual Reality นี่ยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาเท่านั้น แต่ก็คาดว่าจะในช่วงทดสอบในปี 2016

5. Drone ส่งสินค้าจะเกิดขึ้นและไม่ใช่แค่ในสหรัฐ
ในอนาคตอันใกล้ การขนส่งสินค้าจะถูกส่งผ่าน Drone ที่บินส่งของจากโกดังถึงหน้าบ้านได้ แม้ว่าปัจจุบัน Federal Aviation Admistration จะยังไม่อนุญาตให้สามารถขนส่งสินค้าทางอากาศผ่าน Drone ได้ ทั้งๆที่ปัจจุบันเทคโนโลยีของ Drone สามารถทำได้แล้วก็ตาม แต่ในยุโรปและเอเชียอาจจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าหากไม่ติดข้อกฎหมายนี้

6. Amazon จะยังคงครองโลก E-commerce อยู่
Amazon จะยังคงมี Market share เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งทั้ง Online และ Offline Forrester พยากรณ์ว่า ยอดขายสินค้าของ Amazon ในปี 2015 จะทะลุ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นรองแค่ Walmart และ Costco และเชื่อว่าการเติบโตของยอดขาย Amazon จะเติบโตได้มากกว่าการขายแบบ Offline ของสหรัฐ

7. ปุ่ม “ซื้อเลย” (Buy button) จะอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ปุ่มซื้อเลย จะย่นระยะการตัดสินใจและเพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้มากขึ้น ลองนึกว่าถ้าเรา Search Google หาเสื้อสวยๆซักตัวหนึ่ง พอเจอปุ๊บมีปุ่มซื้อที่กดครั้งเดียวสั่งซื้อสินค้า ตัดบัตรเครดิต ได้สินค้าส่งไปถึงบ้านเลยดูสิว่ามันจะยั่วยวนแค่ไหน (สาวๆน่าจะเข้าใจดีกว่าหนุ่มๆ)

8. จุดจบของการขายแบบ Flash Sales จะมาถึง
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการขายแบบ Flash sales จะกำลังจะ “Out” (Flash Sales เป็นการขายสินค้า Online แบบที่มีส่วนลดเยอะๆ Pop up ขึ้นมาให้ลูกค้าเห็น โดยการกำหนดเวลาที่สั้นและจำกัดจำนวนสินค้าจะเริ่งให้ผู้ซื้อหน้ามืดตัดสินใจแบบไม่ทันยั้งคิด ส่วนมากจะใช้กับของโล๊ะสต๊อกของสินค้า Brand name ทั้งหลาย) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน Flash sale กำลังจะถูก Take over หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องปลดพนักงานออก

บทความนี้แปล และเขียนเพิ่มเติมมาจาก:

http://www.thestreet.com/story/13404486/1/8-big-e-commerce-trends-to-look-for-in-2016.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น