วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

คำท้าทายจากชายชื่อ Buffet


ในวัย 83 ปี ลุง Warren Buffet เองก็เริ่มมองถึงยุคสมัยของการลงทุนหลังจากเขาวางมือไปแล้วเช่นกัน แต่น่าแปลกที่เขากลับไม่พยายามสนับสนุนแนวทางการลงทุนที่เขาทำมาตลอดชีวิต กลับเลือกแนะนำแนวทางอื่นไปเสียนั่น

หลังจากที่ Warren Buffet ได้บริจาคหุ้น Berkshire Hathaway ให้กับองค์กรการกุศลไปแล้ว คำแนะนำที่ Buffet ให้กับผู้ดูแลผลประโยชน์ขององค์กรการกุศลนั้นเหลือเชื่อมาก คือให้ขายหุ้น Berkshire Hathaway ทั้งหมดเป็นเงินสด โดยแบ่ง 10% ไว้ในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทีเหลือ 90% ให้เอาไปลงทุนในกองทุนดัชนี S&P 500 (ลุงแกแนะนำของ Vanguard) พร้อมกับแนะนำว่านักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันทุกคนควรลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนต่างๆ (เช่น Commission, Advisory Fee ฯลฯ) ให้น้อยที่สุด รวมถึงมองข้ามความดึงดูดจากผลกำไรเล็กๆน้อยๆไป และนี่ถือเป็นคำแนะนำให้เขาให้กับทายาทของเขาในการบริหารเงินมรดกหลังจากที่เขาจากไปแล้วด้วย

ที่แปลกมากๆก็คือคำแนะนำนี้ไม่แม้แต่จะบอกให้เก็บหุ้น Berkshire Hathaway เอาไว้ต่อไป ทั้งๆที่ Berkshire ของลุง Buffet จะสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยสูงถึง 20% ต่อปี เมื่อเทียบกับ S&P 500 ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ว่ากันตามจริงแล้วคำแนะนำนี้ไม่น่าจะออกมาจากปากของนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นไม่กี่ตัว ในไม่กี่ Sector และมีค่า Median ของการถือครองหุ้นที่ 1 ปี และเป็นต้นฉบับของ VI อีกครึ่งโลกซะด้วยซ้ำ

อาจเป็นไปได้ว่าลุงแกไม่เชื่อมือคนรุ่นหลังว่าจะบริหารการลงทุนได้ดีเหมือนกับที่แกเคยทำ หรืออาจเป็นเพราะลุงแกมองว่าการลงทุนหลังจากแกจากโลกไปมันจะผันผวนซับซ้อนเสียจนไม่มีใครสามารถหาผลตอบแทนที่ดีกว่า S&P 500 ได้เยอะๆอีก (แม้แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยของ Berkshire Hathaway เองก็ค่อยๆลดลงไปตามจำนวนปีที่ผ่านไปเช่นกัน)

สำหรับผมแล้วนี่เป็นเสมือนคำท้าทายของลุงบัฟเฟตถึงนักลงทุน รุ่นหลังทุกผู้นาม ไม่ว่าจะเป็น Active fund manager, Value Investor, Momentum Trader, Quantitatives Hedged Fund, Arbitrager ฯลฯ ให้ลงทุนแข่งกับ Index เพื่อพิสูจน์ให้แกเห็น (บนสวรรค์) ว่ายุคสมัยของการลงทุนแบบ Active มันไม่ได้จบไปพร้อมกับตัวแกหรอก คนรุ่นหลังๆที่มีฝืมือเทียบแกได้ก็ยังมีอยู่

มีใครจะลองรับคำท้าทายของลุงแกไหมนะ

"My advice to the trustee couldn't be more simple: Put 10% of the cash in short-term government bonds and 90% in a very low-cost S & P 500 index fund. (I suggest Vanguard's.) I believe the trust's long-term results from this policy will be superior to those attained by most investors — whether pension funds, institutions or individuals — who employ high-fee managers."

"Both individuals and institutions will constantly be urged to be active by those who profit from giving advice or effecting transactions. The resulting frictional costs can be huge and, for investors in aggregate, devoid of benefit. So ignore the chatter, keep your costs minimal, and invest in stocks as you would in a farm."

ที่มา http://www.marketwatch.com/story/warren-buffett-to-heirs-put-my-estate-in-index-funds-2014-03-13?pagenumber=1


งานเขียนฉบับนี้เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนซึ่งอาศัยข้อสังเกตและประสบการณ์ส่วนตัวในตลาดทุนเท่านั้น ไม่มีงานวิจัยใดๆสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวของผู้เขียน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อนึ่ง ผู้เขียนแสดงทัศนะในบทความนี้ในเชิงส่วนตัวไม่ได้แสดงความเห็นแทนบริษัท คณะบุคคล มูลนิธิหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น

Written by
Indy Investor Forum
15 มีนาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น