วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความพยายามกับความสำเร็จ



แรงงงงงงงงงส์..... แต่จริง

ผมเชื่อเสมอว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัย 3 ปัจจัย
1. ปัญญา หมายถึง ความรู้ที่ถูกต้องที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้จริง
2. โอกาส หมายถึง ช่องทางหรือทางเลือกที่จะทำให้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น

3. มานะ หมายถึง ความพยายามที่จะทำตามความเชื่อของตนอย่างไม่ย่อท้อ

ผมเรียงให้ตามลำดับความสำคัญเรียบร้อย

ปัญญาสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางของการดำเนินชีวิตให้ไปในทางที่ถูก

โอกาสสำคัญรองลงมา เพราะจะทำให้ผู้มีปัญญาสามารถใช้ปัญญาของตนสร้างความสำเร็จให้ตนเองได้โดยง่าย

มานะสำคัญน้อยที่สุด เพราะมันเป็นเพียงแค่ตัวเร่งที่จะทำให้คุณเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่ไม่จำเป็นว่าทางที่คุณกำลังวิ่งไปนั้นมันนำไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลว

หากคุณมีปัญญา แต่ขาดโอกาส คุณยังสามารถประสบความสำเร็จได้ แต่ความสำเร็จนั้นจะยากเย็นกว่าคนที่มีทั้งปัญญาและโอกาส

หากคุณมีปัญญา แต่ขาดมานะ คุณก็ยังสามารถประสบความสำเร็จได้ แต่จะความสำเร็จของคุณก็ต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นๆที่มีปัญญาเหมือนๆกันคุณแต่มีมานะมากกว่า

หากคุณขาดปัญญา ถึงมีโอกาสคุณก็ไขว่คว้าไว้ไม่ได้

หากคุณขาดปัญญา ยิ่งมีมานะจะยิ่งเป็นผลเสียกับคุณมากขึ้นเพราะมันจะทำให้คุณวิ่งเข้าหาความวิบัติได้เร็วขึ้น

ผมยังไม่เห็นด้วย 100% กับข้อความในรูปภาพเพราะความจริงทาสที่มีปัญญาและมานะ ถึงขาดโอกาสก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เช่น เบนเฮอร์ ที่เคยเป็นเศรษฐีตกยาก สามารถสร้างตัวขึ้นมาจากทาส กลับมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง และเป็นผู้สนับสนุนหลักของศาสนาคริสต์ในยุคพระเยซูได้ เพียงแต่เส้นทางกลับมาเป็นเศรษฐีของเขาก็เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะเขาขาดโอกาสที่ดีนั่นเอง

ผมเชื่อเสมอว่าความพยายามมีค่าน้อยมากในโลกของตลาดทุน และไม่สำคัญอะไรเลยกับการลงทุน ความจริงมานะที่ขาดปัญญาจะยิ่งทำให้คุณพินาศได้เร็วขึ้น ผมรู้จักนักลงทุนหลายคนที่ใช้มานะเป็นที่ตั้ง พยายามลงทุนด้วยวิธีเดิมๆที่ตนเชื่อมั่น ถึงแม้หลักฐานจะพิสูจน์อย่างชัดแจ้งว่าวิธีที่ตนเองใช้มันไม่เหมาะกับตนเอง หรือไม่เหมาะกับสภาวะตลาด แต่ก็ยังมานะที่จะทำแบบนั้นต่อไปโดยไม่ยอมเปลี่ยนวิธีเพียงเพื่อจะพิสูจน์ว่าวิธีของตนเองถูก สุดท้ายแม้เขาเหล่านั้นจะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจนต้องออกจากตลาดไป แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ยอมรับอยู่ดีว่าสิ่งที่คิดมามันไม่เหมาะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก หากพวกเขาเพียงแต่จะหยุดและทบทวนตัวเองเท่านั้น

ผมคิดว่าก่อนที่เราจะออกเดินทาง เราควรต้องใช้ปัญญาให้ถี่ถ้วนก่อนว่าจะหันหน้าไปทางไหน พร้อมทั้งมองหาโอกาสให้รอบคอบก่อนว่ามีเส้นทางใดบ้างที่จะไปถึงที่หมายได้เร็วที่สุด แล้วจึงค่อยออกวิ่ง เพราะหากคุณไม่แน่ใจว่าหันหน้าถูกด้านหรือไม่ ผมแนะนำว่าให้คุณคลานไปจะดีกว่าเผื่อว่าระหว่างที่คลาน คุณจะได้มีเวลาทบทวนตัวเองเพื่อกลับตัวก่อนที่คุณจะเข้าป่าไปในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น