วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

ดราม่าตลาดหุ้น


เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นลบไป 3.30% มาวันนี้บวกกลับไป 3.04% ตลาดหุ้นนี้จะว่าไปเปรียบได้กับละครดราม่า ที่มีนักแสดงทั้งพระเอก นางเอก ตัวโกง ตัวประกอบนับหมื่นนับแสนที่ผลัดเปลี่ยนกันมาแสดงบทของตัวเองในแต่ละวัน โดยที่ไม่รู้ว่าบทของตนในวันรุ่งขึ้นจะได้แสดงเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย

ถ้าเป็นคนที่เล่นหุ้นไม่เป็น ยืนอยู่นอกตลาดแล้วมองดูอารมณ์ของนักแสดงในตลาดหุ้นแต่ละคนก็คงจะนึกขำอยู่ในใจ เพื่อนของผมคนหนึ่ง (ขอสงวนไม่เอ่ยนาม) สถาปนาตนเองเป็นเซียนหุ้นหนึ่งในใต้หล้าเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมชักชวนเพื่อนๆเอาเงินกำไรจากหุ้นไปเที่ยวยุโรป พอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาก็บอกกับผมว่า "ลาแล้วตลาดหุ้น พบกันใหม่ชาติหน้า" มาวันนี้เพื่อนคนเดียวกันนี้แหละบอกกับผมว่า "รีบซื้อหุ้นให้เต็มพอร์ต SET Index จะทำ New high ในอีกไม่กี่วัน" ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนผมคนนี้ซื้อหุ้นตั้งแต่วันศุกร์หรือวันนี้กันแน่

ผมก็ไม่รู้หรอกว่า SET Index จะทำ New high หรือไม่วันไหน เพื่อนผมอาจจะถูกก็ได้อาจจะผิดก็ได้ แต่มีปรมาจารย์ชั้นเซียนท่านหนึ่งที่ไม่เคยแสดงตัวในหน้าสื่อให้ใครสรรเสริญ เคยสอนผมสมัยเริ่มทำงานด้านการลงทุนใหม่ๆ ว่าจงเชื่อมั่นในหุ้นทุกตัวที่ลงทุนอยู่ และติดตามความเปลี่ยนแปลงของมันอยู่เสมอ มีเงินเพิ่มให้ก็ทยอยซื้อเข้าไป ระหว่างที่ถือก็ให้ศึกษาหาหุ้นที่น่าสนใจตัวใหม่ไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องรีบร้อนอะไร เมื่อไรที่หุ้นที่เราถืออยู่มีแนวโน้มจะแย่ลง หรือมีหุ้นตัวอื่นที่เรามั่นใจมากกว่า ก็ขายหุ้นที่มีไปถือเงินสดหรือไปซื้อหุ้นใหม่ที่น่าสนใจกว่า ง่ายๆแค่นี้ ไม่ต้องสนใจดัชนี ไม่ต้องสนใจคนรอบข้างจะว่าอะไร ไม่ต้องสนใจโบรกเกอร์จะแนะนำให้เล่นหุ้นตัวไหน จงทำการบ้านให้หนัก และเชื่อมั่นในตัวเองเป็นพอ ดัชนีและคนรอบข้างเรานั่นแหละที่เป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดของการลงทุน

ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนผมที่เทรดหุ้นตามอารมณ์นี้ได้กำไรจากตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ผมยังคงติดตามการลงทุนปรมาจารย์ไอดอลของผมนี้ได้ตามรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนอยู่เสมอๆ ทั้งที่เขาก็มีจุดเริ่มต้นเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆคนนึงมาก่อน ผ่านวัฎจักรขาขึ้นและลงมาหลายวิกฤติ ทั้งต้มยำกุ้ง ซาร์ ซึนามิ แฮมเบอร์เกอร์ หนี้สเปน ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเนื่องจากเป็นคนสันโดษไม่ค่อยออกสื่อ ไม่ค่อยเข้าสังคม ขนาดเคยทำงานด้วยกันยังได้คุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ซื้อหุ้นแต่ละตัวบริษัทต้องมาเชิญไปเป็นกรรมการในบอร์ด (เพราะซื้อเยอะ)

ใครที่เบื่อหน่ายกับการเทรดหุ้นไปวันๆ ซื้อขายตลาดอารมณ์ตลาด อารมณ์แปรปรวนมากๆเวลากำไรหรือขาดทุนหนักๆ อาจจะลองประยุกต์แนวทางลงทุนแบบเรื่อยๆเฉื่อยๆนี้ดูก็ได้ แม้มันอาจไม่ได้กำไรหรือหวาเป็นที่โจทย์จันทน์ของวงการนักเลงหุ้น แต่มันก็เป็นแนวทางการลงทุนที่ผมดูแล้วสบายๆที่สุด

ดัชนีและคนรอบข้างในตลาดหุ้นคือศัตรูตัวฉกาจที่จะทำให้เราเบี่ยงเบนความสนใจจากการลงทุนในหุ้น ไปเป็นการ "เล่น" หุ้นได้ง่ายๆ

ลองนึกดูว่าเราลงทุนในหุ้นเพราะต้องการอะไร ชนะดัชนี รวยกว่าเพื่อนๆ หรือว่ากำไรกันแน่ (^ ^)